วันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

UNIX

คำสั่ง telnetเป็นคำสั่งที่เปลี่ยน host ที่ใช้อยู่ไปยัง host อื่น (ใน Windows 95 ก็มี) รูปแบบ $ telnet hostnameเช่น c:> telnet adslarea4.homeip.net เปลี่ยนไปใช้ host ชื่อ adslarea4.homeip.net $ telnet 192.168.1.55 เปลี่ยนไปใช้ host ที่มี IP = 192.168.1.55 $ telnet 0 telnet เข้า host ที่ใช้อยู่นะขณะนั้นเมื่อเข้าไปได้แล้วก็จะต้องใส่ login และ password และเข้าสู่ระบบยูนิกส์นั้นเอง คำสั่ง ftpftp เป็นคำสั่งที่ใช้ถ่ายโอนไฟล์ข้อมูลจากที่หนึ่ง ไปยังอีกที่หนึ่ง โดยการติดต่อกับ host ที่เป็น ftp นั้นจะต้องมี user name และมี password ที่สร้างขึ้นไว้แล้ว แต่ก็มี ftp host ที่เป็น public อยู่ไม่น้อยเช่นกัน ดังนั้นจะมี user name ที่เป็น publicเช่นกัน คือ user ที่ชื่อว่า anonymous ส่วน password ของ user anonymous นี้จะใช้เป็น E-mail ของผู้ที่จะ connect เข้าไปและโปรแกรมส่วนใหญ่ก็จะอยู่ใน directory ชื่อ pub รูปแบบ $ ftp hostnameเช่น c:windows> ftp wihok.itgo.com$ ftp ftp.nectec.or.thคำสั่ง ftp จะมีคำสั่งย่อยที่สำคัญๆ ได้แก่ftp> help ใช้เมื่อต้องการดูคำสั่งที่มีอยู่ใในคำสั่ง ftpftp> open hostname ใช้เมื่อต้องการ connect ไปยัง host ที่ต้องการftp> close ใช้เมื่อต้องการ disconnect ออกจาก host ที่ใช้งานอยู่ftp> bye หรือ quit ใช้เมื่อต้องการออกจากคำสั่ง ftp ftp> ls หรีอ dir ใช้แสดงชื่อไฟล์ที่มีอยู่ใน current directory ของ host นั้น ftp> get ใช้โอนไฟล์ทีละไฟล์จาก host ปลายทางมายัง localhost หรือเครื่องของเรานั้นเอง ftp> mget ใช้โอนไฟล์ทีละหลายๆไฟล์จาก host ปลายทางมายัง localhostftp> put ใช้โอนไฟล์ทีละไฟล์จาก localhost ไปเก็บยัง host ปลายทางftp> mput ใช้โอนไฟล์ทีละหลายๆไฟล์จาก localhost ไปเก็บยัง host ปลายทางftp> cd ใช้เปลี่ยน directory ftp> delete และ mdelete ใช้ลบไฟล์ คำสั่ง lsมีค่าเหมือนกับ คำสั่ง dir ของ dosรูปแบบ $ ls [-option] [file]option ที่สำคัญl แสดงแบบไฟล์ละบรรทัด แสดง permission , เจ้าของไฟล์ , ชนิด , ขนาด , เวลาที่สร้าง a แสดงไฟล์ที่ซ่อนไว้ ( dir /ah) p แสดงไฟล์โดยมี / ต่อท้าย directory F แสดงไฟล์โดยมีสัญญลักษณ์ชนิดของไฟล์ต่อท้ายไฟล์คือ / = directory * = execute file @ = link file ld แสดงเฉพาะ directory (dir /ad) R แสดงไฟล์ที่อยู่ใน directory ด้วย (dir /s) เช่น$ ls$ ls -la คำสั่ง moreแสดงข้อมูลทีละหน้าจอ อาจใช้ร่วมกับเครื่องหมาย pipe line ( ) หากต้องการดูหน้าถัดไปกด space ดูบรรทัดถัดไปกด Enter เช่น$ ls -la more$ more filename คำสั่ง catมีค่าเหมือนกับ คำสั่ง type ของ dos ใช้ดูข้อมูลในไฟล์ เช่น$ cat filename คำสั่ง clearมีค่าเหมือนกับ คำสั่ง cls ของ dos ใช้ลบหน้าจอ terminal ให้ว่าง$ clear คำสั่ง dateใช้แสดง วันที่ และ เวลา$ date 17 May 1999 คำสั่ง cal ใช้แสดง ปฏิทินของระบบ รูปแบบ $ cal month year เช่น$ cal 07 1999 คำสั่ง lognameคำสั่งแสดงชื่อผู้ใช้ขณะใช้งาน$ lognameคำสั่ง id ใช้แสดงชื่อและกลุ่มมของผู้ใช้งาน$ id คำสั่ง tty แสดงหมายเลข terminal ที่ใช้งานอยู่$ tty คำสั่ง hostnameคำสั่งแสดงชื่อเครื่องที่ใช้อยู่$ hostname คำสั่ง uname คำสั่งแสดง ชื่อและรุ่นของ OS ชื่อและรุ่นของ cpu ชื่อเครื่อง$ uname -a คำสั่ง history คำสั่งที่ใช้ดูคำสั่งที่ใช้ไปแล้วก่อนหน้านี้ $ historyเวลาเรียกใช้ต้องมี ! แล้วตามด้วยหมายเลขคำสั่งที่ต้องการ คำสั่ง echo และ banner$ echo "Hello" ใช้แสดงข้อความ "Hello" ขนาดปกติ$ banner "Hello" ใช้แสดงข้อความ "Hello" ขนาดใหญ่ คำสั่ง who , w และ fingerใช้แสดงว่าใครใช้งานอยู่บ้างขณะนั้น$ who$ w$ finger ดูผู้ใช้ที่ host เดียวกัน $ finger @daidy.bu..ac.th ดูผู้ใช้โดยระบุ Host ที่จะดู$ finger wihok ดูผู้ใช้โดยระบุคนที่จะดูลงไป$ who am i แสดงชื่อผู้ใช้ เวลาที่เข้าใช้งาน และ หมายเลขเครื่อง$ whoami เหมือนกับคำสั่ง logname คำสั่ง pwd แสดง directory ที่เราอยู่ปัจจุบัน$ pwd คำสั่ง mkdirใช้สร้าง directory เทียบเท่า MD ใน DOS$ mkdir dir_name คำสั่ง cp ใช้ copy ไฟล์หนึ่ง ไปยังอกไฟล์หนึ่ง รูปแบบ $ cp [-irfp] file_source file_targetoption -i หากมีการทับข้อมูลเดิมจะรอถามก่อนที่จะทับoption -r copy ไฟล์ทั้งหมดรวมทั้ง directory ด้วยoption -f ไม่แสดงข้อความความผิดพลาดออกหน้าจอoption -p ยืนยันเวลาและความเป็นเจ้าของเดิม$ cp file_test /tmp/file_test คำสั่ง mvใช้ move หรือเปลี่ยนชื่อไฟล์รูปแบบ $ mv [-if] file_source file_targetความหมายของ option เช่นเดียวกับ cp$ mv index.html main.html เปลี่ยนชื่อไฟล์ index.html เป็น main.html คำสั่ง rmใช้ลบไฟล์หรือ directory โดยที่ยังมีข้อมูลภายในเทียบเท่า del และ deltree ของ dosรูปแบบ $ rm [-irf] filename$ rm -r dir_name ลบ dir_name โดยที่ dir_name เป็น directory ว่างหรือไม่ว่างก็ได้$ rm -i * ลบทุกไฟล์โดยรอถามตอบ คำสั่ง rmdirใช้ลบ directory ที่ว่าง เทียบเท่ากับ rd ของ Dos$ rmdir dir_name คำสั่ง aliasใช้ย่อคำสั่งให้สั้นลง $ alias l = ls -l$ alias c = clear คำสั่ง unaliasใช้ยกเลิก alias เช่น$ unalias c คำสั่ง type ใช้ตรวจสอบว่าคำสั่งที่ใช้เก็บอยู่ที่ใดของระบบรูปแบบ $ type command$ type clear คำสั่ง findใช้ค้นหาไฟล์ที่ต้องการ เช่น $ find /usr/bin -name "*sh" -print หาไฟล์ที่ลงท้ายด้วย sh จาก /usr/bin คำสั่ง grep ใช้คนหาข้อความที่ต้องการจากไฟล์ $ grep ข้อความ file คำสั่ง manman เป็นคำสั่งที่เป็นคู่มือการใช้คำสั่งแต่ละคำสั่งเช่น$ man ls$ man cp คำสั่ง write ใช้ส่งข้อความไปปรากฎที่หน้าจอของเครื่องที่ระบุในคำสั่งไม่สามารถใช้ข้าม host ได้เช่น $ write s0460003 คำสั่ง mesg $ mesg ดู status การรับการติดต่อของ terminal$ mesg y เปิดให้ terminal สามารถรับการติดต่อได้$ mesg n ปิดไม่ให้ terminal สามารถรับการติดต่อได้ คำสั่ง talk ใช้ติดต่อสื่อสารแบบสองทาง เหมือนกับการคุยโดยผู้ส่ง ๆ ไปแล้วรอการตอบกลับจาก ผู้รับ สามารถหยุดการติดต่อโดย Ctrl + c สามารถใช้ข้าม host ได้รูปแบบ $ talk username@hostname คำสั่ง pineใช้อ่านและส่งจดหมายข้างในจะมี menu ให้ใช้คำสั่ง tarใช้สำหรับ รวมไฟล์ย่อยให้เป็นไฟล์ Packet คล้ายๆกับการ zip หลายๆไฟล์ให้เป็นไฟล์เดียวแต่ขนาดไฟล์ไม่ได้ลดลงอย่างการ zip โดยไฟล์ output ที่ได้จะตั้งชื่อเป็น filename.tar หรือการแตกไฟล์ packet จาก filename.tar ให้เป็นไฟล์ย่อยมักจะใช้คู่กับ gzip หรือ compress เพื่อทำการลดขนาด packet ให้เล็กลงรูปแบบการใช้$ tar -option output input-option ประกอบด้วย -cvf , -tvf , -xvf แสดงดังด้านล่างoutput คือ ไฟล์.tar หรืออาจจะเป็น device เช่น tape ก็ได้input คือ ไฟล์หรือกลุ่มไฟล์หรือ directory หรือรวมกันทั้งหมดที่กล่าวมา$ tar -cvf Output_file.tar /home/myhome/*Option -cvf ใช้สำหรับการรวมไฟล์ย่อยไปสู่ไฟล์ .tar จากตัวอย่าง รวมไฟล์ทุกไฟล์ที่อยู่ใน /home/myhome/ เข้าสู่ไฟล์ชื่อ Output_file.tar $ tar -tvf filename.tarOption -tvf ใช้แตกไฟล์ .tar เป็นไฟล์ย่อยๆแบบ preview คือแสดงให้ดูไม่ได้แตกจริงอาจใช้คู่กับ คำสั่งอื่น เพื่อให้ได้ประโยชน์ตามต้องการ เช่น tar -tvf filename.tar more$ tar -xvf filename.tarOption -xvf ใช้แตกไฟล์ .tar เป็นไฟล์ย่อยๆ โดยจะแตกลง ณ current directory คำสั่ง gzipใช้ zip หรือ Unzip ไฟล์ packet โดยมากแล้วจะเป็น .tar เช่น$ gzip filename.tar ผลที่ได้จะได้ไฟล์ซึ่งมีการ zip แล้วชื่อ filename.tar.gz$ gzip -d filename.tar.gz ใช้ unzip ไฟล์ผลที่ได้จะเป็น filename.tar คำสั่ง Compress และ Uncompressหลังจากการ compress แล้วจะได้เป็นชื่อไฟล์เดิมแต่ต่อท้ายด้วย .Z การใช้งานเหมือนกับ gzip และ gzip -d เช่น $ compress -v file.tar จะได้ไฟล์ชื่อ file.tar.Z โดย Option -v จะเป็นการ verify การ compress$ uncompress -v file.tar.Z

ไม่มีความคิดเห็น: